Page 112 - Sa Kaeo
P. 112
5-8
2.1) เขตเกษตรกรรมชั้นดี พื้นที่ของเขตนี้กำหนดให้เป็นเขตเกษตรกรรมในพื้นที่ชลประทาน
มีเนื้อที่ 142,865 ไร่ หรือร้อยละ 3.18 ของเนื้อที่จังหวัด โดยเขตนี้เป็นพื้นที่ซึ่งรัฐมีการลงทุนสร้างโครงสร้าง
พื้นฐานด้านการเกษตรกรรม เช่น โครงการชลประทาน และเป็นพื้นที่ซึ่งดินมีศักยภาพในการผลิตปานกลาง
ถึงสูง แต่อาจมีข้อจำกัดของการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประการที่สามารถแก้ไขได้ง่าย พื้นที่เขตเกษตรกรรม
ชั้นดีแบ่งเป็น 4 เขตย่อย ตามศักยภาพและความเหมาะสมของที่ดิน ดังนี้
(1) เขตทำนา มีเนื้อที่ 66,005 ไร่ หรือร้อยละ 1.47 ของเนื้อที่จังหวัดสระแก้ว มีสภาพ
พื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีระบบชลประทานทำให้สามารถทำนาได้ผลผลิตสูง ที่ดินมี
ศักยภาพในการผลิตข้าว พื้นที่เขตนี้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนทำเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ได้
(2) เขตปลูกพืชไร่ มีเนื้อที่ 48,877 ไร่ หรือร้อยละ 1.09 ของเนื้อที่จังหวัดสระแก้ว สภาพ
พื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างเรียบเรียบถึงลูกคลื่นลอนลาด มีระบบชลประทาน ที่ดินมีศักยภาพในการปลูก
พืชไร่ โดยปัจจุบันมีการใช้ที่ดินส่วนใหญ่ปลูกอ้อยโรงงานและมันสำปะหลัง เกษตรกรสามารถเปลี่ยนการใช้
ที่ดินจากการปลูกพืชไร่มาเป็นการปลูกไม้ผลหรือพื้นที่เขตนี้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนทำเกษตร
ผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ได้
(3) เขตปลูกไม้ผล มีเนื้อที่ 5,766 ไร่ หรือร้อยละ 0.13 ของเนื้อที่จังหวัดสระแก้ว สภาพ
พื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบถึงลูกคลื่นลอนลาด มีระบบชลประทาน ที่ดินมีศักยภาพในการปลูกไม้
ผลและพืชผัก โดยปัจจุบันมีการใช้ที่ดินส่วนใหญ่ปลูกมะม่วงและลำไย พื้นที่เขตนี้เกษตรกรสามารถ
ปรับเปลี่ยนทำเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ได้
(4) เขตปลูกไม้ยืนต้น มีเนื้อที่ 22,217 ไร่ หรือร้อยละ 0.49 ของเนื้อที่จังหวัดสระแก้ว
สภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบถึงลูกคลื่นลอนลาด มีระบบชลประทาน ที่ดินมีศักยภาพในการ
ปลูกไม้ยืนต้น โดยปัจจุบันมีการใช้ที่ดินส่วนใหญ่ปลูกยูคาลิปตัส ยางพารา และปาล์มน้ำมันพื้นที่เขตนี้
เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนทำเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ได้
ข้อเสนอแนะในการใช้พื้นที่เขตเกษตรกรรมชั้นดี
- ควรพัฒนาเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว
- ควรพัฒนาสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของพืช และสัตว์ ปลา เพิ่มขึ้น
- แปลงนาข้าว ควรมีการปรับสภาพพื้นที่ในให้สม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับการขัง
ของน้ำในระหว่างการเพาะปลูกให้เหมาะสม
- ควรปรับปรุงบำรุงดินโดยการเพิ่มอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ย
พืชสด เพื่อช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินเพิ่มการอุ้มน้ำของดิน และเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์
สำหรับพืช ร่วมกับการใส่ปุ๋ยในอัตราส่วนที่เหมาะสม
- ควรปลูกพืชคลุมดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดิน
- แนะนำให้มีการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน
รวมถึงการแนะนำส่งเสริมให้มีการปลูกพืช และไถพรวนขวางความลาดชันของพื้นที่
- พัฒนาองค์กรเกษตรในเขตดังกล่าวให้มีความเข้มแข็ง สามารถ ดำเนินการเพื่อ
ช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งในด้านปัจจัยการผลิตที่มีราคาค่อนข้างสูงและคุณภาพของปัจจัย การผลิตที่ต้องอยู่
ในระดับที่ดี เช่น ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช และกิ่งพันธุ์ ปัญหาหนี้สินของ เกษตรกรซึ่งมีผลต่อ
แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสระแก้ว กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน