Page 57 - Lamphun
P. 57

3-17





                  3.3  ทรัพยากรป่าไม้

                        การพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลท าให้ทรัพยากรที่ดินมีการน าไปใช้ประโยชน์อย่างไม่มีขีดจ ากัด
                  การขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคการเกษตรที่เร่งผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก กระตุ้นให้เกิดการบุกเบิก
                  พื้นที่ป่าไม้เพื่อท าการเกษตร รูปแบบการขยายพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินของประเทศเปลี่ยนแปลงไป

                  จากเดิม พื้นที่สูงจ านวนมากถูกบุกเบิกเพื่อการท าการเกษตร เพื่อการท่องเที่ยว และน าไปสู่การท าลาย
                  ระบบนิเวศอันยากที่จะฟื้นคืน การขยายตัวของภาคเมืองและภาคอุตสาหกรรมเข้าไปในพื้นที่ราบในภาค
                  การเกษตรน าไปสู่การสูญเสียระบบนิเวศและสร้างปัญหามลพิษ
                        การบริหารจัดการที่ดินของภาครัฐในอดีตสร้างปัญหาความขัดแย้งและกระตุ้นให้เกิดการใช้ที่ดิน
                  อย่างไม่เหมาะสม น าไปสู่ความเสียหายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสามารถจ าแนก

                  ปัญหาในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ได้ดังนี้
                          1) การบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ
                          2) ความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดิน

                          3) การกระจายการถือครองที่ดินท ากิน
                          4) การไร้ที่ดินท ากิน
                          5) การไม่ท าประโยชน์ในที่ดินท ากินหรือการใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ
                          6) การถือครองที่ดินขนาดใหญ่

                          7) ปัญหาการบริหารจัดการที่ดิน
                        นโยบายการบริหารจัดการที่ดินของรัฐความพยายามที่จะบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของ
                  ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยั่งยืนพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ จากสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศที่พื้นที่ป่า
                  ลดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่มีผลท าให้เกิดปัญหามีดังนี้

                          1) นโยบาย แผน และองค์กรที่เกี่ยวข้องมีปัญหา กล่าวคือ นโยบายด้านการบริหารจัดการ
                  ทรัพยากรป่าไม้ขาดเอกภาพและเป้าหมายที่ชัดเจน นโยบายส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจและ
                  พัฒนาการท่องเที่ยวท าให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้ นโยบายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินป่า
                  ไม้ขาดความยั่งยืนและชัดเจนในทางปฏิบัติ แผนแม่บทเพื่อพัฒนาการป่าไม้ของประเทศในอดีตล้มเหลว

                  องค์กรด้านบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ขาดเอกภาพและไม่เอื้อต่อการบริหารและการส่งเสริมการมี
                  ส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น
                          2) ระบบฐานข้อมูลที่ดินป่าไม้ไม่สมบูรณ์ กล่าวคือ แนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐประเภทอื่น

                  ไม่ชัดเจนและมีการทับซ้อนกัน การจ าแนกพื้นที่ที่ดินป่าไม้เพื่อการบริหารจัดการ (Zoning) ยังไม่มี
                  ประสิทธิภาพและไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริงในปัจจุบัน ฐานข้อมูลผู้ใช้ประโยชน์ และผู้ครองครอง
                  พื้นที่เขตป่าไม้และที่ดินของรัฐประเภทอื่นยังไม่ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน และทันสมัย
                          3) กฎหมายที่มีอยู่ไม่ทันสมัย ขาดประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหา กล่าวคือ
                  กฎหมายบางมาตราไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเขตป่าและที่ดิน บางฉบับไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเป็น

                  ระบบหรือครบวงจร ไม่มีมาตราที่พอเพียงและเหมาะสม
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62