Page 55 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสมุทรสงคราม
P. 55

3-11





                      3.3.2 การชะล้างพังทลายของดิน

                          การประเมินการชะล้างพังทลายของดินของจังหวัดสมุทรสงคราม ใช้สมการการสูญเสียดินสากล
                  (Universal Soil Loss Equation : USLE) ของ Wischmeier & Smith (1978) มีรูปสมการดังนี้
                                             A = R K L S C P

                              A คือ ค่าการสูญเสียดินต่อหน่วยของพื้นที่
                              R คือ ค่าที่รวมทั้งปัจจัยของน้ าฝนและการไหลบ่า (Rainfall and runoff erosivity factor)
                  ซึ่งสามารถอธิบายได้จากค่าความสัมพันธ์ของพลังงานจลน์ของเม็ดฝนที่ตกกระทบผิวหน้าดินกับปริมาณ
                  ความหนาแน่นของฝนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในที่นี้ใช้ข้อมูลปริมาณน้ าฝนเฉลี่ยรายปี (Average annual
                  rainfall) มาใช้ในการวิเคราะห์

                              K คือ ค่าปัจจัยความคงทนต่อการถูกชะล้างพังทลายของดิน (Soil erodibility factor)
                  ซึ่งภายใต้สภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน ดินแต่ละชนิดจะทนต่อการชะล้างพังทลายได้แตกต่างกันโดยจะ
                  เป็นผลมาจากสมบัติเฉพาะของดินนั้นๆ สามารถวิเคราะห์ค่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับลักษณะดินนี้ จากภาพ

                  Nomograph โดยประเมินได้จากสมบัติของดิน 5 ประการคือ 1) ผลรวมปริมาณร้อยละดินของทรายแป้ง
                  และปริมาณร้อยละของทรายละเอียดมาก 2) ปริมาณร้อยละของทราย 3) ปริมาณร้อยละอินทรียวัตถุในดิน
                  4) โครงสร้างของดิน และ 5) การซาบซึมน้ าของดินซึ่งกรมพัฒนาที่ดิน (2545) ได้ศึกษาปัจจัยดังกล่าว และ
                  ให้ค่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของดินสอดคล้องตามเนื้อดินบนของแต่ละพื้นที่ คือ บริเวณที่สูง และ

                  บริเวณที่ลุ่มต่ า ซึ่งในการประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดินครั้งนี้ใช้ค่า K ตามเนื้อดินบนในภาคกลาง
                              LS คือ ค่าปัจจัยความลาดชันของพื้นที่ (Slope length and slope steepnessfactors)
                  เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความลาดชัน และความยาวของความลาดชัน ตามปกติแล้วค่าการชะล้าง
                  พังทลายของดินนั้นจะเพิ่มขึ้นเมื่อความลาดชันสูงขึ้น และเมื่อความยาวของความลาดชันลดลง ซึ่งในการ

                  ประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดินครั้งนี้ใช้ค่าปัจจัยรวมของความลาดชัน และความยาวของความ
                  ลาดชันตามการศึกษาของกรมพัฒนาที่ดิน (2545)
                                C คือ ค่าปัจจัยการจัดการพืช (crop management factor) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ
                  พืชคลุมดินซึ่งพืชแต่ละชนิดย่อมมีความต้านทานในการชะล้างพังทลายของดินที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ

                  ความสูงของต้น ลักษณะพุ่ม หรือการยึดอนุภาคดินของรากพืชนั้นๆ เป็นต้น ในกรณีที่ไม่มีพืชปกคลุมดิน
                  ปัจจัยนี้จะมีค่าเท่ากับหนึ่ง ส่วนกรณีที่พืชปกคลุมดินสามารถต้านทานการชะล้างพังทลายของดินได้ดีขึ้น
                  ส่งผลให้วิธีการปลูกพืชทุกชนิดจะให้ค่าปัจจัยนี้น้อยกว่าหนึ่ง นอกจากนี้แล้วปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ

                  การจัดการพืชนี้ยังมีความสัมพันธ์กับสภาพภูมิอากาศในพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศนั้น
                  มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชซึ่งในการประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดินครั้งนี้ใช้ค่าปัจจัย
                  การจัดการพืชตามการศึกษาของกรมพัฒนาที่ดิน (2545)
                              P คือ ค่าปัจจัยการอนุรักษ์ดินและน้ า (conservation practice factor) เป็นปัจจัยที่
                  แสดงถึงมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ าในพื้นที่นั้นๆ เช่น การปลูกพืชตามแนวระดับ (Contouring) การปลูก

                  พืชสลับขวางความลาดเอียง (Strip cropping) เป็นต้น ในการประเมินการชะล้างพังทลายของดินครั้งนี้
                  ใช้ค่าปัจจัยการปฏิบัติป้องกันการชะล้างพังทลายตามการศึกษาของกรมพัฒนาที่ดิน (2545)
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60