Page 102 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสกลนคร
P. 102
3-68
ณ วันที่ 31 ธันวำคม 2560 จังหวัดสกลนคร มีโรงงำนอุตสำหกรรมทั้งหมด 2,391 โรง เงิน
ลงทุนรวม 8,153 ล้ำนบำท และมีจ ำนวนคนงำน 7,862 คน โดยจ ำแนกออกเป็นจ ำพวกโรงงำนจ ำพวก
1 จ ำนวน 1,780 โรง เงินทุน 153 ล้ำนบำท คนงำน 2,083 คน โรงงำนอุตสำหกรรมจ ำพวก 2 จ ำนวน 194 โรง
เงินทุน 474 ล้ำนบำท คนงำน 956 คน โรงงำนอุตสำหกรรมจ ำพวก 3 จ ำนวน 417 โรง เงินทุน 7,526
ล้ำนบำท คนงำน 4,821 คน อ ำเภอที่มีจ ำนวนโรงงำนอุตสำหกรรมมำกที่สุด คือ เมืองสกลนคร มี
จ ำนวนโรงงำน 497 โรง เงินทุน 2,039 ล้ำนบำท คนงำน 2,595 คน รองลงมำ คือ อ ำเภอสว่ำงแดนดิน
มีโรงงำน 354 โรง เงินทุน 1,400 ล้ำนบำท คนงำน 1,101 คน อ ำเภอที่มีโรงงำนน้อยที่สุด คือ อ ำเภอภูพำน
มีจ ำนวนโรงงำน 14 โรง เงินทุน 8 ล้ำนบำท คนงำน 34 คน
2) การวิเคราะห์อุปสงค์-อุปทาน และวิถีตลาดสินค้าเกษตรที่ส าคัญ จังหวัดสกลนคร
จำกข้อมูลของส ำนักงำนเศรษฐกิจกำรเกษตร (2560) ภำคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยนั้น
ถือเป็นพื้นที่แหล่งเพำะปลูกข้ำวเพื่อส่งออกเป็นหลักของประเทศ โดยจังหวัดสกลนครมีพื้นที่
เพำะปลูกข้ำวนำปี เป็นอันดับที่ 8 ของภำคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีพื้นที่เพำะปลูกข้ำวในปี 2560
จ ำนวน 3,549,104 ไร่ ปริมำณผลผลิต 762,226 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 404 กิโลกรัม แยกเป็นพื้นที่ปลูก
ข้ำวเจ้ำ 465,606 ไร่ พื้นที่ปลูกข้ำวเหนียว 3,083,498 ไร่ เพื่อเป็นกำรเตรียมควำมพร้อมและหำข้อ
ได้เปรียบทำงกำรค้ำและสร้ำงรำยได้อย่ำงยั่งยืนให้กับประเทศ กำรศึกษำอุปสงค์ (Demand) และ
อุปทำน (Supply) สินค้ำข้ำวในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก จึงเป็นแนวทำงหนึ่งที่จะ
เป็นกลไกขับเคลื่อน กำรบริหำรจัดกำรสินค้ำเกษตรให้เกิดควำมสมดุลทั้งด้ำนกำรผลิตและเกิดควำม
ยุติธรรมในด้ำนรำคำที่คุ้มทุน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขำย และสำมำรถน ำมำประยุกต์ใช้วิเครำะห์นโยบำยต่ำงๆ
เช่น นโยบำยด้ำนกำรเกษตรเพื่อเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันสินค้ำเกษตรอื่นๆ เพื่อสร้ำงรำยได้
และเกิดควำมมั่งคั่งยั่งยืนในอำชีพเกษตรกรรม
ข้อมูลจำกแผนพัฒนำจังหวัดสกลนคร ปี พ.ศ. 2558-2561 ได้ก ำหนดวิสัยทัศน์ เพื่อก ำหนด
ทิศทำงกำรพัฒนำจังหวัด คือ “เป็นแหล่งเกษตรปลอดภัย ก้ำวไกลกำรค้ำ พัฒนำแหล่งท่องเที่ยว”
และมีเป้ำประสงค์คือ พัฒนำกำรเกษตรและอุตสำหกรรมกำรเกษตรสู่ควำมมั่นคงและยั่งยืน มีกำร
พัฒนำผลิตภัณฑ์ชุมชนในจังหวัดให้มีคุณภำพมำตรฐำนระดับอำเซียนเป็นแหล่งท่องเที่ยว 3 ธรรม
ที่ได้รับกำรยอมรับในระดับประเทศ
ประเด็นยุทธศำสตร์ที่ 1 กำรพัฒนำกำรเกษตรและอุตสำหกรรมกำรเกษตรตำมหลักปรัชญำ
เศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกลยุทธ์คือ
1. เพิ่มประสิทธิภำพกำรผลิตทั้งในเชิงปริมำณ คุณภำพ และมำตรฐำน
2. สร้ำงควำมเข้มแข็งของสถำบันกำรเกษตร
2.1) ข้าวเจ้านาปี
2.1.1) สถำนกำรณ์กำรผลิต
พันธุ์ข้ำวเจ้ำนำปี ที่นิยมปลูกมำกในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมใช้
พันธุ์ขำวดอกมะลิ 105 เป็นพันธุ์ที่ตลำดมีควำมต้องกำรสูง ซึ่งทนต่อสภำพดินเค็ม ดินเปรี้ยว ทนแล้ง
ลักษณะเด่นของเมล็ดข้ำวสำรลื่นมันวำว เม็ดเรียวสวยงำม เมื่อหุงจะมีกลิ่นหอมคล้ำยดอกมะลิและนุ่ม
ส่วนพันธุ์ กข15 มีลักษณะใกล้เคียงกันแต่มีอำยุกำรเก็บเกี่ยวที่สั้นกว่ำประมำณ 10-15 วัน ส ำหรับพันธุ์
ข้ำวเจ้ำนำปรังนิยมปลูกพันธุ์ปทุมธำนี 1 และพันธุ์ชัยนำท 1