Page 39 - แผนการใช้ที่ดินเพื่อการผลิตข้าวคุณภาพสูงรายพันธู์ กข43
P. 39
2-27
2.6.2 การตลาด
ข้าวพันธุ์ กข43 เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของนาแปลงใหญ่ หรือ โครงการระบบส่งเสริม
การเกษตรแบบแปลงใหญ่ ภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกร
ได้รวมกลุ่มกันผลิต และยกระดับให้เป็นสินค้าตลาดเฉพาะของกลุ่มคนรักสุขภาพ การผลิตข้าว
ื่
เพอสุขภาพ พันธุ์ กข43 ให้มีคุณภาพ ต้องมีการควบคุมการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่กระบวนการ
เพาะปลูกจนกระทั่งแปรรูป ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมการข้าวร่วมกับ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ส่งเสริมการผลิตข้าวพันธุ์ กข 43 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานสนับสนุน
เรื่องพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 คัดเลือกสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวและสนใจเข้าร่วมโครงการ
ทำหน้าที่ดูแลและสนับสนุนเกษตรกรที่เป็นสมาชิกปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 ตามข้อกำหนด เริ่มตั้งแต่การ
ขึ้นทะเบียนสมาชิกผู้ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 การดูแลแปลงปลูกและควบคุมคุณภาพแปลงตามมาตรฐาน
GAP จนถึงขั้นตอนรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกร และหากสหกรณ์ใดมีโรงสีข้าวที่ผ่านมาตรฐาน GMP
แล้ว ก็สามารถแปรรูปเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่ายสู่ตลาดได้ทันที แต่ถ้าสหกรณ์ยังไม่มีโรงสีก็สามารถที่จะ
ื่
รวบรวมข้าวเปลือกจากสมาชิกเพอส่งจำหน่ายให้กับโรงสีเอกชนต่อไป ในส่วนของกรมการข้าว จะเข้ามา
ช่วยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนคัดเมล็ดพันธุ์ ดูแลแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ และแปลงผลิตข้าวของเกษตรกร
การตรวจรับรองระบบมาตรฐาน GAP และสำหรับการขยายช่องทางการจำหน่ายข้าวพันธุ์ กข 43
ภายในประเทศและต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการ
วางแผนการตลาด ทั้งนี้ เมื่อส่งเสริมการบริโภคข้าวพันธุ์ กข 43 ในประเทศจนได้รับความนิยมและ
พัฒนาพันธุ์ข้าวเพียงพอต่อการขยายการเพาะปลูก ภาครัฐพร้อมที่จะส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาด
ต่างประเทศตามกระแสการรักสุขภาพ เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรมีรายได้และมีความมั่นคงในอาชีพ
เกษตรกรอย่างยั่งยืน
ตามที่แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรใช้ระบบ “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งดำเนินการ
มาตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เมื่อพิจารณาข้อมูลปริมาณความต้องการใช้ข้าว (Demand) ของข้าว
ตลาดเฉพาะ (ข้าวพันธุ์ กข43 ข้าวอินทรีย์ และข้าวสี) ระหว่าง ปี 2561/62-2565/66 พบว่า ปริมาณ
ื่
ความต้องการใช้ข้าวเปลือกเพอการบริโภคมีแนวโน้มลดลง คิดเป็นร้อยละ 12.23 ต่อปี โดยปี 2561/62
มีการใช้เพื่อบริโภค 0.1850 ล้านตันข้าวเปลือก ปี 2565/66 ลดลงเหลือ 0.1210 ล้านตันข้าวเปลือก
ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ข้าวสารเพอการบริโภคก็มีแนวโน้มลดลงไปในทิศทางเดียวกัน คิดเป็นร้อยละ
ื่
12.13 ต่อปี โดยปี 2561/62 มีการใช้เพื่อบริโภค 0.1200 ล้านตันข้าวสาร ปี 2565/66 ลดลงเหลือ
0.0790 ล้านตันข้าวสาร (ตารางที่ 2-9 และรูปที่ 2-6)
สำหรับปริมาณความต้องการใช้ข้าว (Demand) ของข้าวพันธุ์ กข43 ปี 2561/62-
2564/65 พบว่า ปริมาณความต้องการใช้ข้าวเปลือกเพื่อการบริโภคมีแนวโน้มลดลง คิดเป็นร้อยละ
10.76 ต่อปี โดยปี 2561/62 มีการใช้เพื่อบริโภค 0.0770 ล้านตันข้าวเปลือก ปี 2564/65 ลดลงเหลือ
0.0520 ล้านตันข้าวเปลือก ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ข้าวสารเพื่อการบริโภคก็มีแนวโน้มลดลงไป
ในทิศทางเดียวกัน คิดเป็นร้อยละ 10.93 ต่อปี โดยปี 2561/62 มีการใช้เพื่อบริโภค 0.0500 ล้านตัน
ข้าวสาร ปี 2564/65 ลดลงเหลือ 0.0340 ล้านตันข้าวสาร (ตารางที่ 2-10 และรูปที่ 2-7)
ทั้งนี้แนวโน้มการบริโภคที่ลดลง เนื่องจากความต้องการใช้เพื่อการบริโภคและ
อุตสาหกรรมลดลงจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง