Page 10 - แผนการใช้ที่ดินเพื่อการผลิตข้าวคุณภาพสูงรายพันธู์ กข43
P. 10
1-2
ด้านการผลิต การบริหารจัดการการผลิตและการตลาด ส่งเสริมให้ชุมชนมีการบริหารจัดการในการผลิต
และการตลาดอย่างมีส่วนร่วม โดยมีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริม
สนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่ชุมชนชาวนา
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 72(1) ได้กำหนดให้มี
“การวางแผนการใช้ที่ดินของประเทศไทยให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และศักยภาพของที่ดิน
ิ
ั
ั
ตามหลักการพฒนาอย่างยั่งยืน” ดังนั้นการวางแผนการใช้ที่ดินเพอการผลตข้าวคุณภาพสูงรายพนธุ ์
ื่
จึงเป็นแนวทางที่สำคัญเพื่อบริหารจัดการการปรับโครงสร้างการผลิตข้าวของประเทศ รวมถึงเป็นการเพม
ิ่
ประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร ตลอดจนเป็นการบริหารจัดการทรัพยากร
การเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
1.2 วัตถุประสงค์
1.2.1 เพื่อการสำรวจ จำแนก และจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข43
1.2.2 เพื่อวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ปลูกข้าวพนธุ์ กข43 ตามกระบวนการวางแผนการใช้ที่ดิน
ั
ที่เชื่อมโยงมิติกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม
1.2.3 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้การวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อรองรับยุทธศาสตร์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1.3 ขอบเขตการดำเนินงาน
1.3.1 ระยะเวลาดำเนินงาน ตุลาคม 2565 ถึง กันยายน 2566
1.3.2 ขอบเขตพื้นที่ศึกษา พื้นที่เกษตรกรรมทั้งประเทศ
1.4 วิธีการและขั้นตอนการดำเนินงาน
1.4.1 การสำรวจ จำแนก และจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข43
1) รวบรวมข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข43
2) นำเข้าข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลโดยกำหนดและจำแนกประเภทของข้อมูล
3) สำรวจตรวจสอบความถูกต้องภาคสนามเพื่อแก้ไขและปรับปรุงความถูกต้องรวมถึง
รวบรวมข้อมูลให้มีความสมบูรณ์
4) นำข้อมูลมาจัดเก็บเป็นชั้นแผนที่และจัดทำแผนที่เก็บเป็นไฟล์ชนิด Shape file พร้อม
จัดทำตารางข้อมูลเชิงคุณลักษณะ โดยมีการออกแบบตารางข้อมูลเพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงคุณลักษณะให้มี
ความสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่
1.4.2 การวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข43
1) รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ด้านกายภาพ ชีวภาพ เศรษฐกิจ และสังคม และนโยบายและ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2) สำรวจภาคสนามเก็บข้อมูลทั้งด้านกายภาพ ด้านเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อนำไปสู่
วิเคราะห์วางแผนการใช้ที่ดินพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ กข43
ื่
3) ทำการวิเคราะห์เพอประเมินค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยวิธีการวิเคราะห์ต้นทุน ผลประโยชน์
(Cost Benefit Analysis) โดยศึกษาค่าสำหรับการใช้สอย (Use Value) ได้แก่ ค่าใช้สอยโดยตรง