Page 9 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยหอม

บทสรุปผู้บริหาร

กล้วยหอมเป็นผลไม้เมืองร้อนที่สามารถพบได้ทั่วไป โดยส่วนใหญ่พบได้ในจังหวัด

ชุมพร เพชรบุรี สระบุรี หนองคาย และสุราษฎร์ธานี ตามลําดับ ในปี 2554 มีเนื้อที่ให้ผล

ทั้งประเทศ 85,950 ไร่ ผลผลิตรวม 231,290 ตัน ซึ่งผลผลิตที่ได้เพื่อการบริโภค

ภายในประเทศและส่งออกทํารายได้กลับเข้ามาสู่ประเทศ ประเทศไทยส่งออกกล้วยหอม

ในรูปของผลสดเป็นปริมาณมากถึง 4,632 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 82.07 ล้านบาท ประเทศคู่ค้า

ที่สําคัญ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

และสาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกกล้วยหอมยังมีความต้องการ

อีกมาก (สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2555)

จากการสํารวจของกรมพัฒนาที่ดิน (2555) พบว่า การผลิตกล้วยหอมของประเทศไทย

ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 2,650 กิโลกรัม รายได้/มูลค่าผลผลิตไร่ละ 29,442 บาท ต้นทุนทั้งหมด

ไร่ละ 10,389 บาท ผลตอบแทนเหนือต้นทุนทั้งหมด (ผลตอบแทนสุทธิ) ไร่ละ 19,053 บาท

อัตราส่วนรายได้ต่อต้นทุนทั้งหมดเท่ากับ 2.83 เมื่อทําการเปรียบเทียบต้นทุน รายได้ และ

ผลตอบแทนการผลิตกล้วยหอมตามระดับความเหมาะสมของพื้นที่ พบว่า มีต้นทุนการผลิต

ไร่ละ 9,986-10,892 บาท ต้นทุนผันแปรไร่ละ 6,799-7,523 บาท โดยพื้นที่ที่มีระดับความเหมาะสม

ปานกลาง (S2) มีต้นทุนทั้งหมดและต้นทุนผันแปรสูงที่สุด รองลงมาเป็นพื้นที่ที่มีระดับ

ความเหมาะสมสูง (S1) และเหมาะสมเล็กน้อย (S3) ตามลําดับ ผลผลิต ผลตอบแทน และ

อัตราส่วนรายได้ต่อต้นทุนทั้งหมดเป็นไปตามระดับความเหมาะสมของพื้นที่ กล่าวคือ

พื้นที่ที่มีระดับความเหมาะสมสูง (S1) ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 3,032 กิโลกรัม ผลตอบแทน

เหนือต้นทุนทั้งหมดไร่ละ 23,425 บาท อัตราส่วนรายได้ต่อต้นทุนทั้งหมดเท่ากับ 3.28

รองลงมาเป็นพื้นที่ที่มีระดับความเหมาะสมปานกลาง (S2) และเหมาะสมเล็กน้อย (S3)
ตามลําดับ

การกําหนดเขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยหอมเป็นแนวทางหนึ่งที่ทําให้มีการปลูก

กล้วยหอมในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั้งทางกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม นําไปสู่การผลิต

กล้วยหอมที่ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงสามารถนําเขตการใช้ที่ดิน

ไปปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อการวางแผนการผลิต การตลาด และ

เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจกล้วยหอม สํานักสํารวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน