Page 51 - การใช้ข้อมูลสำรวจระยะไกลเพื่อศึกษาความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่เสี่ยง การเป็นดินกรดและดินเค็ม ภาคกลางของประเทศไทย
P. 51
44
4.3.3 ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน
พบความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนีพืชพรรณกับปริมาณอินทรียวัตถุในดินจากข้อมูลภาพถ่ายทั้ง
2 เดือน (ตารางที่ 16) โดยข้อมูลภาพถ่ายในมีนาคม พบความสัมพันธ์ในระดับต่ ามากทั้ง 3 ดัชนี ขณะที่ข้อมูลภาพ
ถ่ายในธันวาคม ดัชนี NDVI และ GNDVI พบความสัมพันธ์ในระดับต่ าถึงปานกลาง โดย GNDVI โมเดลแบบ
2
Logarithmic โดยมีค่า r เท่ากับ 0.40 และ p-value เท่ากับ 0.18 ทั้งนี้จึงอาจเป็นไปได้ว่าข้อมูลภาพถ่าย
ดาวเทียม Sentinel-2 มีศักยภาพในการใช้ท าแบบจ าลองส าหรับประมาณปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (ภาพที่ 10)
โดยความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี GNDVI เดือนธันวาคมกับปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีความสัมพันธ์เชิงลบคือ
พบว่าเมื่อค่า GNDVI สูงขึ้นปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโน้มลดลง ซึ่งโดยทั่วไปค่าดัชนีพืชพรรณจะสามารถใช้
จ าแนกปริมาณของพืชและสุขภาพของพืชที่ปกคลุม โดยพืชที่มีขนาดใหญ่ มีมวลชีวภาพสูง จะมีค่าดัชนี NDVI
ดัชนี GNDVI และ ดัชนี NDII ที่สูงกว่าบริเวณที่พืชปกคลุมอยู่น้อยและพืชเป็นโรคทั้งจากการขาดธาตุอาการและ
การเกิดโรคแมลง ซึ่งจากการศึกษาครั้งนี้พบว่าบริเวณที่มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินสูงแต่มีค่าดัชนีพืชพรรณต่ ากว่า
ซึ่งเป็นพื้นที่นาข้าวจึงอาจเป็นไปได้ว่าการศึกษาโดยใช้ค่าดัชนีพืชพรรณเพื่อหาความสัมพันธ์กับปริมาณ
อินทรียวัตถุในดินอาจต้องค านึงถึงลักษณะของภูมิประเทศ ชุดดิน และชนิดของพืชที่ปกคลุม ซึ่งโดยทั่วไปนาข้าว
จะอยู่ในบริเวณชุดดินที่เป็นดินเหนียวในที่ลุ่ม เป็นบริเวณที่มีการสะสมของอินทรียวัตถุสูงเมื่อเปรียบเทียบกับ
บริเวณพื้นที่ดอนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดินร่วนหรือดินทรายในบริเวณที่ปลูกไม้ยืนต้นที่มีค่าดัชนีพืชพรรณสูง หน้า
ดินตื้น มีชั้นดินน้อย มีการชะล้างหน้าดินมาก ชั้นดินบนจะบาง หรืออาจจะไม่มีชั้นดินบนเลยก็ได้ ตรงกันข้ามกับ
ดินที่เกิดในที่ราบลุ่ม ที่มักจะมีชั้นดินบนที่หนากว่าเนื่องจากเป็นแหล่งทับถมของตะกอน เนื้อดินละเอียดกว่า
เพราะมีการเคลื่อนย้ายอนุภาคขนาดดินเหนียวจากดินชั้นบนลงไปสะสมอยู่ในดินล่าง (กรมพัฒนาที่ดิน, 2557ข)
(%)
ภาพที่ 10 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าดัชนี GNDVI เดือนธันวาคมกับค่าปริมาณอินทรียวัตถุในดิน