Page 47 - Mae Klong Basin
P. 47

3-13





                          1) อุณหภูมิ

                            จังหวัดกาญจนบุรี มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดป 28.4 องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย
                  ตลอดป 34.3 องศาเซลเซียส โดยพบอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน คือ 37.9 องศาเซลเซียส
                  และมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยตลอดป 23.6 องศาเซลเซียส โดยพบอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคมคือ
                  20.3 องศาเซลเซียส
                          2) ปริมาณน้ำฝน

                            จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาณน้ำฝนรวม 1,062.2 มิลลิเมตร โดยในเดือนกันยายน
                  มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุด 220.8 มิลลิเมตร และเดือนธันวาคม มีปริมาณน้ำฝนนอยที่สุด คือ 6.6 มิลลิเมตร
                          3) ปริมาณน้ำฝนใชการได (Effective Rainfall : ER)
                            ปริมาณน้ำฝนใชการได คือ ปริมาณน้ำฝนที่เหลืออยูในดิน ซึ่งพืชสามารถนำไปใชประโยชน
                  ไดภายหลังจากมีการไหลซึมลงไปในดินจนดินอิ่มตัวดวยน้ำแลวไหลบาออกมากักเก็บในพื้นดิน

                  จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาณน้ำฝนใชการได 820.6 มิลลิเมตร ในเดือนกันยายน มีปริมาณน้ำฝนใชการ
                  ไดมากที่สุด 142.8 มิลลิเมตร และเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนใชการไดนอยที่สุด คือ 6.5 มิลลิเมตร
                          4) ความชื้นสัมพัทธและศักยภาพการคายระเหยน้ำ
                            จังหวัดกาญจนบุรี พบวามีความชื้นสัมพัทธเฉลี่ยตลอดป 69.8 เปอรเซ็นต ปริมาณการคาย
                  ระเหยน้ำเฉลี่ยตลอดป 116.6 มิลลิเมตร ปริมาณการคายระเหยสูงสุด 146.9 มิลลิเมตร

                  ในเดือนพฤษภาคม ปริมาณการคายระเหยต่ำสุด 85.2 มิลลิเมตร ในเดือนพฤศจิกายน
                          5) การวิเคราะหชวงฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืช
                            การวิเคราะหชวงฤดูเพาะปลูกพืชเพื่อหาชวงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกพืชโดยใชขอมูล
                  ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย และคาศักยภาพการคายระเหยน้ำของพืชรายเดือนเฉลี่ย (Evapotranspiration :
                  ETo) ซึ่งคำนวณและพิจารณาจากระยะเวลาชวงที่เสนน้ำฝนอยูเหนือเสน 0.5 ETo ถือเปนชวง
                  ระยะเวลาที่เหมาะสมในการปลูกพืช จากการวิเคราะหชวงฤดูกาลที่เหมาะสมจากการปลูกพืชเศรษฐกิจ

                  จังหวัดกาญจนบุรี สามารถสรุปไดดังนี้
                            (1) ชวงระยะเวลาที่เหมาะสมตอการปลูกพืช เปนชวงที่ดินมีความชื้นพอเหมาะตอการปลูกพืช
                  ซึ่งเปนชวงฤดูฝนปกติอยูในชวงระหวางตนเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในชวงตนเดือน
                  ธันวาคมนั้น เปนชวงที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงเล็กนอยแตเนื่องจากมีปริมาณน้ำที่สะสมไวในดิน

                  จึงมีความชื้นในดินเพียงพอสำหรับปลูกพืชอายุสั้นได แตควรมีการวางแผนจัดการระบบการเพาะปลูก
                  ใหเหมาะสมสำหรับพื้นที่เพาะปลูกแตละแหง เนื่องจากอาจตองอาศัยน้ำจากแหลงน้ำในไรนาหรือ
                  น้ำชลประทานชวยในการเพาะปลูกบาง
                            (2) ชวงระยะเวลาที่มีน้ำมากเกินพอ เปนชวงที่ดินมีความชื้นสูงและมีฝนตกชุก อยูในชวง
                  ระหวางกลางเดือนเมษายนถึงตนเดือนพฤศจิกายน
                            (3) ชวงระยะเวลาที่ไมเหมาะสมตอการปลูกพืชโดยอาศัยน้ำฝน เนื่องจากมีปริมาณฝน

                  และการกระจายของฝนนอย ทำใหดินมีความชื้นไมเพียงพอตอการเจริญเติบโตของพืชอยูในชวงระหวาง
                  ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงตนเดือนมีนาคมซึ่งในชวงเวลาดังกลาวถาพื้นที่เพาะปลูกแหงใดมีการจัดการ
                  ระบบชลประทานที่ดีก็สามารถปลูกพืชฤดูแลงได










                  แผนการใชที่ดินลุมน้ำหลักแมน้ำแมกลอง
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52