Page 235 - Chumphon
P. 235

ผ-7





                        1) การใชพื้นที่ทำเหมืองแร เกษตรกรรม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ใหสามารถทำไดแตตองควบคุม

                  วิธีการปฏิบัติอยางเขมงวด ใหเปนไปตามหลักอนุรักษดินและน้ำ
                        2) การใชที่ดินเพื่อการเกษตรในชั้นคุณภาพลุมน้ำนี้ใหถือแนวปฏิบัติดังนี้ ในบริเวณที่มีผิวดินลึก
                  มากกวา 50 เซนติเมตร ใหใชเปนบริเวณปลูกไมผล ไมเศรษฐกิจ และพืชเศรษฐกิจยืนตนอื่น ๆ

                  ตามความเหมาะสมแตตองใชมาตรการอนุรักษดินและน้ำที่ถูกตอง สวนบริเวณที่หนาดินบางจะมีหนา
                  ดินลึกนอยกวา 50 เซนติเมตร เปนพื้นที่ไมเหมาะสมสำหรับเกษตรกรรมเพราะจะทำใหสูญเสียความชื้นของผิว
                  ดินโดยงาย ควรจัดใหเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว
                     2.4  ขอกำหนดการใชประโยชนพื้นที่ลุมน้ำชั้น 4

                        มาตรการในการใชที่ดินในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุมน้ำนี้จะมีความเขมงวดนอยกวาพื้นที่ลุมน้ำชั้น 3
                  ซึ่งมีขอกำหนดไวดังนี้
                        1) การใชพื้นที่ทำเหมืองแร และกิจการอื่น ๆ ใหอนุญาตไดตามปกติ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบ
                  ของราชการอยางเครงครัด

                        2) การใชที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในชั้นคุณภาพลุมน้ำนี้พึงปฏิบัติดังนี้
                            - ในบริเวณที่มีความลาดชันรอยละ 18-25 (เทียบโดยระยะ 100 เมตรมีความสูงตางระดับกัน
                  18-25 เมตร) และมีดินลึกนอยกวา 50 เซนติเมตร สมควรใชเปนพื้นที่ปาและไมผล โดยมีการวางแผน
                  ตามมาตรการอนุรักษดินและน้ำ

                            - บริเวณที่มีความลาดชันระหวางรอยละ 6-18 ควรใชเพาะปลูกพืชไรนา โดยมีมาตรการ
                  อนุรักษดินและน้ำ
                    2.5  ขอกำหนดการใชประโยชนพื้นที่ลุมน้ำชั้น 5
                        มาตรการในการใชที่ดินในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุมน้ำนี้จะมีความเขมงวดนอยที่สุด และมีขอกำหนด

                  นอยมากดังนี้
                        1) การใชที่ดินเพื่อกิจการเหมืองแร การเกษตร ทำไดโดยปกติ
                        2) การใชที่ดินเพื่อการเกษตรในชั้นคุณภาพลุมน้ำนี้จะตองปฏิบัติดังนี้
                            - ในบริเวณที่มีหนาดินลึกนอยกวา 50 เซนติเมตร ควรเปนพื้นที่ปลูกพืชไร ปาเอกชน ไมผล

                  ทุงหญาเลี้ยงสัตว หรือสถานที่สำหรับพักผอนหยอนใจ
                            - บริเวณที่หนาดินมีความลึกเกินกวา 50 เซนติเมตร ควรใชเปนพื้นที่ปลูกขาวและพืชไร
                  ปาเอกชน ไมผล ทุงหญาเลี้ยงสัตว หรือเปนสถานที่พักผอนหยอนใจ

                            - ในกรณีที่จะใชที่ดินในชั้นคุณภาพนี้เพื่อการอุตสาหกรรมควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ ซึ่งมีศักยภาพ
                  ทางการเกษตรสูง
                    จากขอกำหนดการใชประโยชนพื้นที่ลุมน้ำชั้นคุณภาพตาง ๆ สรุปสาระสำคัญไดคือ การใชประโยชน
                  พื้นที่ลุมน้ำชั้น 1 และพื้นที่ลุมน้ำชั้น 2 ซึ่งเปนพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่ตองสงวนรักษาไวเปน
                  พิเศษ เนื่องจากเปนแหลงตนน้ำลำธารและเปนพื้นที่ปาไมของประเทศ ไมควรจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพื่อใช

                  ทำการเกษตร สำหรับการใชประโยชนพื้นที่ลุมน้ำชั้น 34 และพื้นที่ลุมน้ำชั้น 5 นั้น ใหใชทำการเกษตร
                  ไดแตตองมีมาตรการตามขอกำหนดการใชประโยชนพื้นที่ลุมน้ำ ไดแก มาตรการดานการอนุรักษดินและน้ำ
                  และการปองกันการชะลางพังทลายของดิน เปนตน ขอกำหนดตาง ๆ จึงมีมาตรการที่เขมงวดแตกตางกัน

                  เพื่อปองกันการเสื่อมโทรมของดิน และใหสามารถใชประโยชนที่ดินไดอยางยั่งยืนตอไป
   230   231   232   233   234   235   236   237   238