Page 16 - Sa Kaeo
P. 16
2-4
2.3 สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดสระแก้ว ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล มี 2 ชนิด คือ
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทย
ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ทำให้
มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทร
เข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม) ทำให้มีฝนตกชุก
ทั่วไป แบ่งออกตามฤดูกาลได้ 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
พัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนซึ่งเป็นมวลอากาศเย็นจะแผ่ลง
ปกคลุมประเทศไทยในช่วงดังกล่าว ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไปเดือนที่มีอากาศหนาว
มากที่สุดเดือนธันวาคม
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว
โดยทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปี
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้
พัดเอาความชื้นจากทะเลและมหาสมุทรมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับในช่วงดังกล่าวร่องความกด
อากาศต่ำที่พาดอยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทยเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้อากาศเริ่มชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม
เป็นต้นไป โดยเฉพาะเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกหนาแน่นมากที่สุดในรอบปี แต่อย่างไรก็ตาม
นอกจากปัจจัยดังกล่าวที่ให้มีฝนตกชุกแล้วยังขึ้นอยู่กับอิทธิของพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้
หรือเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงดังกล่าวด้วย
สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปมีลักษณะภูมิอากาศในพื้นที่จังหวัดสระแก้วดังนี้ (ตารางที่ 2-1)
อุณหภูมิ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27.7 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน
36.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคม 20.1 องศาเซลเซียส
ปริมาณน้ำฝน มีปริมาณน้ำฝนรวมตลอดปี 1,484.4 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงสุด
ในเดือนกันยายน 292.5 มิลลิเมตร และปริมาณน้ำฝนต่ำสุดในเดือนธันวาคม 5.5 มิลลิเมตร (รูปที่ 2-2)
ความชื้นสัมพัทธ์ มีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปี 78.8 เปอร์เซ็นต์ โดยมีความชื้นสัมพัทธ์
สูงสุดในเดือนกันยายน 87.0 เปอร์เซ็นต์ และต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 69.0 เปอร์เซ็นต์
การวิเคราะห์ช่วงฤดูเพาะปลูก จากการวิเคราะห์สถานการณ์สมดุลของน้ำ เพื่อการเกษตร
ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือน และค่าศักยภาพการคายระเหยน้ำเฉลี่ยรายเดือน
(Evapotranspiration : ETo) ซึ่งคำนวณโดยใช้โปรแกรม Cropwat for Windows Version 8.0 โดยพิจารณา
จากช่วงระยะที่น้ำฝนอยู่ที่เหนือระดับเส้น 0.5 ของค่าศักยภาพการคายระเหยน้ำ (0.5 ETo) เป็นหลัก
(รูปที่ 2-3) พบว่า ระยะเวลาในการปลูกพืชที่เหมาะสมกับจังหวัดสระแก้วอยู่ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
แผนการใช้ที่ดินจังหวัดสระแก้ว กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน