Page 68 - khonkaen
P. 68
3-22
3.3 ทรัพยากรป่าไม้
การพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลท้าให้ทรัพยากรที่ดินมีการน้าไปใช้ประโยชน์อย่างไม่มี
ขีดจ้ากัด การขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคการเกษตรที่เร่งผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก กระตุ้นให้เกิดการ
บุกเบิกพื้นที่ป่าไม้เพื่อท้าการเกษตร รูปแบบการขยายพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินของประเทศ
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พื้นที่สูงจ้านวนมากถูกบุกเบิกเพื่อการท้าการเกษตร เพื่อการท่องเที่ยว และ
น้าไปสู่การท้าลายระบบนิเวศอันยากที่จะฟื้นคืน การขยายตัวของภาคเมืองและภาคอุตสาหกรรมเข้าไป
ในพื้นที่ราบในภาคการเกษตรน้าไปสู่การสูญเสียระบบนิเวศและสร้างปัญหามลพิษ
การบริหารจัดการที่ดินของภาครัฐในอดีตสร้างปัญหาความขัดแย้งและกระตุ้นให้เกิดการใช้ที่ดิน
อย่างไม่เหมาะสม น้าไปสู่ความเสียหายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสามารถจ้าแนก
ปัญหาในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ได้ดังนี้
1) การบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ
2) ความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดิน
3) การกระจายการถือครองที่ดินท้ากิน
4) การไร้ที่ดินท้ากิน
5) การไม่ท้าประโยชน์ในที่ดินท้ากินหรือการใช้ที่ดินไม่เต็มศักยภาพ
6) การถือครองที่ดินขนาดใหญ่
7) ปัญหาการบริหารจัดการที่ดิน
นโยบายการบริหารจัดการที่ดินของรัฐความพยายามที่จะบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน
ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยั่งยืนพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ จากสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศที่พื้นที่ป่า
ลดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่มีผลท้าให้เกิดปัญหามีดังนี้
1) นโยบาย แผน และองค์กรที่เกี่ยวข้องมีปัญหา กล่าวคือ นโยบายด้านการบริหารจัดการ
ทรัพยากรป่าไม้ขาดเอกภาพและเป้าหมายที่ชัดเจน นโยบายส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ
และพัฒนาการท่องเที่ยวท้าให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้ นโยบายแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
เกี่ยวกับที่ดินป่าไม้ขาดความยั่งยืนและชัดเจนในทางปฏิบัติ แผนแม่บทเพื่อพัฒนาการป่าไม้
ของประเทศในอดีตล้มเหลว องค์กรด้านบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ขาดเอกภาพและไม่
เอื้อต่อการบริหารและการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น
2) ระบบฐานข้อมูลที่ดินป่าไม้ไม่สมบูรณ์ กล่าวคือ แนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐประเภทอื่นไม่
ชัดเจนและมีการทับซ้อนกัน การจ้าแนกพื้นที่ที่ดินป่าไม้เพื่อการบริหารจัดการ (Zoning) ยัง
ไม่มีประสิทธิภาพและไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริงในปัจจุบัน ฐานข้อมูลผู้ใช้ประโยชน์
และผู้ครองครองพื้นที่เขตป่าไม้และที่ดินของรัฐประเภทอื่นยังไม่ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน
และทันสมัย
3) กฎหมายที่มีอยู่ไม่ทันสมัย ขาดประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหา กล่าวคือ
กฎหมายบางมาตราไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเขตป่าและที่ดิน บางฉบับไม่สามารถบังคับใช้ได้
อย่างเป็นระบบหรือครบวงจร ไม่มีมาตราที่พอเพียงและเหมาะสม
โดยข้อมูลที่ดินของรัฐที่ใช้ร่วมในการวิเคราะห์ด้านทรัพยากรป่าไม้ ตามตารางที่ 3-7
แผนการใช้ที่ดินจังหวัดขอนแก่น กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน