Page 35 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดราชบุรี
P. 35

2-19





                  เดือนที่มีอากาศร๎อนอบอ๎าวที่สุดในรอบปี เนื่องจากดวงอาทิตย๑ได๎โคจรจากซีกโลกใต๎มาอยูํในละติจูด

                  ที่ตั้งฉากกับประเทศไทยจึงได๎รับรังสีจากดวงอาทิตย๑เต็มที่
                      ฤดูฝน เริ่มตั้งแตํกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นฤดูที่มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต๎
                  พัดจากมหาสมุทรอินเดียปกคลุมประเทศไทย ลมนี้เป็นลมร๎อนและชื้นจึงทําให๎มีฝนชุกทั่วไปและมี

                  อากาศชุํมชื้น เดือนที่มีฝนตกมากที่สุดคือเดือนตุลาคม
                        อุณหภูมิ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27.7 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด
                  ในเดือนเมษายนประมาณ 29.8 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยต่ําสุดในเดือนธันวาคมประมาณ
                  25.4 องศาเซลเซียส
                        ปริมาณน้ าฝน มีปริมาณน้ําฝนรวมตลอดปี 1,142.3 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณน้ําฝนสูงสุดในเดือน

                  ตุลาคมประมาณ 235.1 มิลลิเมตร และปริมาณน้ําฝนต่ําสุดในเดือนมกราคมประมาณ 4.5 มิลลิเมตร
                        ความชื้นสัมพัทธ์ มีความชื้นสัมพัทธ๑เฉลี่ยตลอดปี 78.0 เปอร๑เซ็นต๑ โดยมีความชื้นสัมพัทธ๑สูงสุด
                  ในเดือนตุลาคมประมาณ 86.0 เปอร๑เซ็นต๑ และต่ําสุดในเดือนมกราคมประมาณ 72.0 เปอร๑เซ็นต๑

                        การวิเคราะห์ช่วงฤดูเพาะปลูก จากการวิเคราะห๑สถานการณ๑สมดุลของน้ําเพื่อการเกษตรด๎วย
                  ข๎อมูลเกี่ยวกับปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยรายเดือน และคําศักยภาพการคายระเหยน้ําเฉลี่ยรายเดือน
                  (Evapotranspiration  :  ETo) ซึ่งคํานวณโดยใช๎โปรแกรม Cropwat  for  Windows  Version  8.0
                  โดยพิจารณาจากชํวงระยะที่น้ําฝนอยูํที่เหนือระดับเส๎น 0.5 ของคําศักยภาพการคายระเหยน้ํา (0.5

                  ETo) เป็นหลัก เพื่อหาชํวงระยะเวลาที่เหมาะสมในการปลูกพืชของจังหวัดราชบุรีสามารถสรุปได๎ดังนี้
                          1) ชํวงระยะเวลาที่เหมาะสมในการเพาะปลูก จะอยูํในชํวงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือน
                  พฤศจิกายน เนื่องจากดินมีความชื้นเพียงพอสําหรับการปลูกพืช
                        2) ชํวงระยะเวลาที่ไมํเหมาะสมในการเพาะปลูกพืช แบํงออกเป็นชํวงขาดน้ํา เนื่องจากมี

                  ปริมาณน้ําฝนน๎อยไมํเพียงพอตํอการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งจะอยูํในชํวงปลายเดือนพฤศจิกายนถึง
                  กลางเดือนเมษายน ในชํวงเวลาดังกลําวถ๎ามีน้ําชลประทานชํวยก็สามารถปลูกพืชฤดูแล๎งและพืชอายุสั้นได๎
                  และชํวงน้ําอาจมากเกินพอซึ่งจะอยูํในชํวงกลางเดือนพฤษภาคมถึงต๎นเดือนพฤศจิกายน เป็นชํวงที่มี
                  ปริมาณน้ําฝนมากในบริเวณที่ลุํมหรือบริเวณฝั่งแมํน้ําอาจเกิดน้ําทํวมสํงผลเสียหายกับผลผลิตได๎
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40