Page 25 - แผนการใช้ที่ดินจังหวัดราชบุรี
P. 25

2-9





                  ชาวมนุษย๑เหลือล๎นพ๎นคณา เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข๎าวจะเอาข๎าวเก็บใสํยุ๎งและจะนําข๎าวออกมารับประทาน

                  หรือซื้อขายกัน ชาวนาจะทําพิธีสูํขวัญข๎าวเสียกํอน (ปัจจุบันจะทําพร๎อมกันทั้งทําข๎าวใสํยุ๎งและเปิดยุ๎ง)
                  โดยนําข๎าวที่นวดแล๎วกองรวมกันไว๎ตํอหน๎ารูปปั้นแมํโพสพ นิมนต๑พระสงฆ๑มาสวดเพื่อเป็นสิริมงคล
                  ทําบุญเลี้ยงพระ และมีหมอทําขวัญรับขวัญแมํโพสพทั่วๆ ไป แล๎วทําพิธีใน เดือน 3 ขึ้น 3 ค่ํา ทุกปี

                              16) บุญข้าวจี่ : ข๎าวจี่ คือ การนําข๎าวเหนียวที่ปั้นแล๎วโรยเกลือทาไขํไกํนําไปจี่ไฟให๎สุก
                  เรียกวํา ข๎าวจี่ การทําบุญมีการให๎ทานข๎าวจี่ เรียกวํา บุญข๎าวจี่ มีคนนิยมทํากันมากเพราะถือวําได๎บุญกุศลมาก
                  และเป็นการให๎ทานชนิดหนึ่งเวลาทํากําหนดเอาเดือนสาม เพราะมีการกําหนดเชํนนี้จึงมีชื่อเรียกอีก
                  อยํางหนึ่งวําบุญเดือนสาม มีเรื่องเลําในพระธรรมบทวําคราวหนึ่งนางปุณณทาสีทําขนมแปูงจี้ (ข๎าวจี่)
                  ถวายแดํพระพุทธเจ๎าและพระอานนท๑ นางคิดวําพระองค๑รับแล๎วคงจะไมํฉันท๑เพราะอาหารของเราไมํ

                  ประรีตคงจะโยนให๎กาให๎สุนัขกิน เมื่อพระองค๑ทรงทราบวาระจิตของนางปุณณทาสีแล๎วจึงรับสั่งให๎
                  พระอานนท๑ปูลาดอาสนะลงทรงประทับนั่งฉันท๑ขนมแปูงจี่ ณ ที่นั่น พอนางปุณณทาสีได๎เห็นก็เกิด
                  ความปิติยินดีสุดกําลัง พระองค๑ทรงแสดงธรรมให๎ฟังนางก็ได๎บรรลุโสดาปัตติผลเป็นอริยบุคคล เพราะ

                  ข๎าวจี่เป็นมูลเหตุ ดังนั้นชาวนาเมื่อเก็บเกี่ยวแล๎วจึงพากันทําบุญข๎าวจี่เพราะการถวายข๎าวจี่มีอานิสงส๑มาก
                  พิธีทําข๎าวจี่ชาวบ๎านตัดหาฟืนและไม๎เสียบมาไว๎ที่เรือนของตน รุํงเช๎าจุดไฟขึ้นเอาข๎าวเหนียวปั้นเป็นปั้นๆ
                  โรยเกลือจี่ไฟเอาไขํไกํทาให๎ทั่วแล๎วจี่ไฟให๎สุก

                              17) ประเพณีสงกรานต์ : ประเพณีสงกรานต๑เป็นประเพณีที่ดีงามสืบทอดกันมาเป็น
                  เวลานานเป็นวันครอบครัว และเป็นประเพณีที่คนไทยถือวําทุกคนในครอบครัวญาติพี่น๎องได๎มาพบกัน
                  พร๎อมหน๎าเพื่อรํวมกันอนุรักษ๑ประเพณีสงกรานต๑ ให๎ลูกหลานได๎สืบทอดวัฒนธรรมที่ดีงามให๎ยืนยาว

                  ชุมชนจึงได๎รํวมกันจัดงานประเพณีสงกรานต๑อยํางยิ่งใหญํ มีการสรงน้ําพระ ประกวดนางสงกรานต๑
                  การละเลํนพื้นเมืองและการละเลํนแบบไทยๆ มีประชาชนมารํวมรดน้ําดําหัวผู๎สูงอายุ
                              18)  การแห่โคมเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา : ในอดีตที่ผํานมาเพื่อเป็นการสักการะพระพุทธองค๑

                  ประชาชนตําบลหนองโพ อําเภอโพธาราม รํวมกันจัดทําโคมดอกบัวด๎วยการขดลวดเป็นกลีบดอกบัว
                  เอากระดาษแก๎วปะติดที่กลีบดอกบัวตํอด๎ามถือเสียบเทียนไว๎ในดอกบัว 1 เลํม นําไปมอบให๎กับทางวัดหนองโพ
                  แล๎วนํามาจําหนํายให๎ประชาชนทุกที่ที่มารํวมงาน การเวียนเทียนวันวิสาขบูชาจัดทําในวันเพ็ญเดือน 6

                  ของทุกปี
                              19) ประเพณีทุกขตะ : พระครูสังฆรักษ๑พิชัยพุทธยาโนเจ๎าอาวาสวัดเขาส๎ม ได๎สืบค๎น
                  ประวัติของประเพณีทุกขตะจากผู๎เฒําแกํชาวมอญที่จัดขึ้นในปีที่มีเดือนแปดสองครั้ง ลักษณะของ
                  ประเพณีจะเป็นพิธีถวายทานโดยชาวบ๎านแตํละบ๎านจะมารับพระไปฉันท๑ที่บ๎านของตนเอง ซึ่งจะต๎องมา
                  ขึ้นทะเบียนขอรับพระที่วัด โดยทางวัดจะทําสลากเทํากับจํานวนพระที่นิมนต๑มีจุดประสงค๑วําในปีหนึ่งๆ

                  ได๎มีโอกาสนิมนต๑พระไปยังบ๎านของตนเอง เพื่อเป็นสิริมงคลโดยไมํต๎องเจาะจงวําเป็นพระสงฆ๑องค๑ใด ทําให๎
                  ชาวบ๎านที่มีกําลังทรัพย๑มากหรือน๎อยมีโอกาสได๎ทําบุญบ๎านตามกําลังศรัทธา เจ๎าอาวาสวัดเขาส๎ม
                  ได๎กลําวถึงประวัติที่มาของพิธีทุกขตะวํา สืบเนื่องในสมัยพุทธกาลมีนายทุกขตะและภรรยาเป็นครอบครัว

                  ที่ยากจนมาก แตํมีจิตศรัทธาที่จะทําบุญในบวรพุทธศาสนาทั้งที่ตนยากจน โดยมีเครื่องนุํงหํมเพียงชุดเดียว
                  นายทุกขตะได๎นําเครื่องนุํงหํมของตนไปซักให๎สะอาดแล๎วนําไปขายได๎เงินเพียงน๎อยนิดก็นําเงินที่ได๎ไป
                  เตรียมจัดหาอาหารเพื่อถวายพระ ซึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นได๎มีประเพณีการถวายอาหารพระสงฆ๑ที่บ๎าน
                  โดยไมํเจาะจงวําเป็นพระสงฆ๑องค๑ใด ชาวบ๎านมีความเชื่อวําถ๎าได๎ถวายอาหารแดํพระอรหันต๑จะได๎บุญ
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30