Page 418 - oil palm
P. 418

ผ-14




                        10.2.3   โรคใบจุด (Helminthosporium leaf spot)

                              สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Drechslera halodes Helminthosporium sp.

                              ลักษณะอาการ  เริ่มที่ใบออน หรือใบยอดที่ยังไมคลี่ เกิดจุดกลมเล็กๆ ขนาดเทา

                  ปลายเข็มหมุด มีสีเหลืองใส แตละจุดมีวงแหวนสีเหลืองลอมรอบ ลักษณะการเกิดแผลเปนกลุม

                  โดยมากเกิดบริเวณปลายใบเขามา ตอมาจุดแผลเปลี่ยนเปนสีน้ําตาลดําเมื่อโรคระบาดรุนแรง วงแหวน
                  สีเหลืองขยายตัวรวมกัน ทําใหใบมีสีเหลืองทั้งใบ และเริ่มแหงเปนสีน้ําตาล โดยเริ่มจากปลายใบ เขาหา

                  โคนใบ ขนาดของแผลเล็กกวาแผลที่เกิดจากโรคใบไหมและแผลไมขยายตัวมากนัก

                              การปองกันกําจัด
                             1)  แยกตนที่เปนโรคออกเผาทําลาย

                             2)  พนดวยสารปองกันกําจัดโรคพืชไทแรม หรือ แคปแทนทั้งบนใบและใตใบ

                        10.2.4   โรคบลาส (Blast disease)

                              สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา Rhizoctonia lamellifera และ Pythium splendens
                              ลักษณะอาการ เกิดอาการใบดานและนิ่ม สีของใบมีลักษณะทึบ ตอมาสีของใบ

                  เปลี่ยนเปนสีมะกอกหรือสีกากี เกิดอาการแหงเปลี่ยนเปนสีมวงน้ําตาลและสีน้ําตาลเขม อาการเริ่มที่

                  ปลายใบลางแลวลุกลามทั้งใบ ใบกรอบและเปลี่ยนเปนสีเทา และจะเริ่มลุกลามจากใบลางไปยังใบยอด

                  เมื่ออาการรุนแรง ตนกลาแหงตายภายในเวลา 2-3 วัน ในระยะที่เริ่มแสดงอาการบนใบ จะเกิดการเนา
                  ที่ปลายรากลุกลามเขาทําลายเนื้อเยื่อสวนของเปลือกราก ทําใหเปลือกรากหลุดออก เมื่อลอกเปลือก

                  รากออกจะพบสวนเนื้อเยื่อภายใน ที่เปนโรคเปลี่ยนเปนสีน้ําตาลลักษณะฉ่ําน้ํา ในขณะที่สวนที่ไมถูก

                  ทําลายจะมีสีขาว เปลือกรากที่ถูกทําลายมีลักษณะแหง มีสีเทาหรือดํา แตการเนาของรากไมเขาทําลาย
                  สวนของลําตน ซึ่งเปนลักษณะ สําคัญที่ทําใหอาการโรคบลาส ตางจากโรครากเนาของตนกลา

                  ปาลมน้ํามัน

                              การปองกันกําจัด เนนดานการเขตกรรมเปนหลัก คือ
                             1)  ดินที่ใชเพาะกลาควรมีลักษณะที่เก็บน้ําไวได โดยเฉพาะอยางยิ่งในชวงแลง

                             2)  ใหน้ําอยางเพียงพอ การใหน้ําจะชวยลดอุณหภูมิของดินลงในชวงที่มีอากาศรอน

                             3)  คลุมดินเพื่อลดการสูญเสียความชื้นและลดอุณหภูมิของดิน ควรจัดเรียงถุงเพาะ
                  เปนแถวตามทิศตะวันออก - ทิศตะวันตก เพื่อเปนการปองกันการบังแสงแดดของตนกลา

                             4)  ใหปุยบํารุงตนกลาใหแข็งแรง

                             5)  ในบริเวณที่แมลงมีสวนในการทําใหเกิดโรค ควรกําจัดวัชพืชในแปลงและ

                  รอบแปลงเพาะโดยใชสารเคมี aldicarb (Temik) 2 กรัมตอตน ทุกเดือน
   413   414   415   416   417   418   419   420   421   422   423